เรายังวนเวียนอยู่กับอาการท้องเสียของลูกน้อยของเรา เพราะอาการที่ทารกท้องเสียนั้นถือว่าเป็นเรื่องที่น่าปวดหัวและวุ่นวายใจที่สุดสำหรับคนเป็นพ่อเป็นแม่ เมื่อลูกท้องเสียสิ่งที่ตามมาคืออาการงอแงและร้องไห้ อาการท้องเสีย ยิ่งเกิดในเด็กทารกด้วยแล้ว ยิ่งยากขึ้นไปอีกเพราะทารกไม่สามารถพูดได้ว่าตัวเองมีอาการอย่าง ต้องเกิดจากการสังเกตของพ่อแม่ล้วนๆ ด้วยเหตุผลข้อนี้นี่เอง การที่เด็กทารกท้องเสียจึงเป็นสิ่งที่น่าหนักใจที่สุด
การสังเกตว่าลูกน้อยของเราท้องเสียหรือไม่นั้นก็ไม่ได้ยากอะไร แต่ต้องเกิดจากการใส่ใจอย่างมาก เพราะพ่อแม่ถ้าหากใส่ใจดูแลลูกน้อย จะรู้ว่าลูกขับถ่ายเวลาไหน ช่วงไหนบ้าง ช่วงไหนจะกิน ช่วงไหนจะนอน ช่วงไหนงอแง การร้องไห้ในแต่ละครั้งนานแค่ไหน ล้วนแต่เป็นรายละเอียดเล็กๆน้อยๆที่เกี่ยวข้องกับลูกของเราซึ่งเราต้องสังเกตเอง สิ่งแรกที่จะเป็นชนวนบอกว่าลูกท้องเสียหรือไม่คือ การถ่ายเหลวเป็นน้ำและถ่ายบ่อย แต่จะเหลว จะบ่อยแค่ไหนนั้นก็ต้องขึ้นอยู่กับการสังเกตของพ่อแม่เท่านั้น เช่น ปกติลูกจ่ายถ่ายช่วงเช้า กลางวัน เย็น แต่ถ้าหากการถ่ายถี่กว่ารอบปกติ เราก็ควรเริ่มเอะใจแล้วว่าลูกเราจะเกิดอาการท้องเสียหรือไม อย่างนี้เป็นต้น
ทีนี้เรามาดูอาหาร 5 อย่างที่จะช่วยบรรเทาอาการท้องเสียลูกน้อยของเรา จริงๆก็มีมากมายหลายอย่างที่จะช่วยบรรเทาอาการท้องเสียของทารก แต่ 5 อย่างที่เราจะกล่าวถึงถือว่าเป็นอาหารที่หาได้ค่อนข้างง่ายและเป็นพื้นฐานของมนุษย์เราอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นจะต้องไปขวนขวายให้ลำบาก ซึ่งมีรายละเอียดของแต่ละอย่างดังนี้
- นมแม่ เด็กทารกที่ยังดื่มนมแม่อยู่ก็ให้ดื่มนมแม่ต่อไปเพราะในนมแม่มีจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์ต่อระบบขับถ่ายเป็นอย่างมาก
- น้ำ เราสามารถให้เด็กทารกดื่มน้ำบ่อยๆได้ในตอนที่ท้องเสีย และนอกจากน้ำเปล่าแล้ว น้ำผสมเกลือแร่สำหรับเด็กก็สามารถให้ลูกเราดื่มได้เช่นกัน ตามปริมาณของเอกสารกำกับยา หรือจะเป็นน้ำผลไม้ก็ได้เช่นกัน
- ข้าว สำหรับทารกที่ทานข้าว ก็ให้ทานต่อได้ตามปกติเพราะข้าวเป็นแหล่งพลังงานที่สำคัญของร่างกาย
- กล้วย เพราะกล้วยถือว่าเป็นอาหารที่อ่อนโยนต่อระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่าย
- ทับทิม เพราะผลไม้ชนิดนี้จะมีผลดีต่อระบบขับถ่ายโดยตรง อาจจะใช้เป็นการคั้นเอาน้ำให้ลูกดื่มก็ได้
จากที่กล่าวมาข้างต้น จะเห็นว่าอาหารทั้ง 5 อย่างนั้นล้วนเป็นอาหารที่เราต้องมีอยู่แล้วในชีวิตประจำวัน จะมีพิเศษหน่อยก็ทับทิม ที่บางบ้านอาจจะไม่ได้ซื้อติดตู้ไว้ แต่ก็ไม่ได้จำเป็นขนาดที่จะต้องกินให้ได้