อาหาร สุขภาพ » สูตรชงกาแฟ Americanoและ Macchiato

สูตรชงกาแฟ Americanoและ Macchiato

29 มิถุนายน 2022
242   0

ถ้าพูดถึงสูตรชงกาแฟนั้น ต้องบอกว่ามีมากมายเหมือนตำราเข้าใจผู้หญิง เพราะสูตรต่างๆนั้นถูกคิดค้นขึ้นมาเรื่อยๆ เนื่องจากกาแฟนั้นเป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมกันทั่วโลก และสัดส่วนการผสมนั้นก็ไม่ได้มีอะไรมากำหนดแน่นอนเพียงแค่เป็นการประมาณเท่านั้น อย่าง americano หรือ macchiato  ก็ไม่ได้กำหนดว่าต้องมีกาแฟเท่าไหร่ ใส่น้ำเท่าไหร่ เติมนมได้ไหม เติมน้ำตาลได้ไหม จึงทำให้สูตรกาแฟของแต่ละที่ไม่เหมือนกันถึงจะชื่อเหมือนกันก็ตาม ฉะนั้นถ้าจะถามหาสูตรที่แน่นอนของการชงกาแฟนั้นก็เหมือนงมเข็มในมหาสมุทร เพราะมากยากเหลือเกิน นี่ก็อาจจะเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่มีร้านกาแฟก่อตั้งขึ้นมากมายหลายสำนัก เพราะด้วยมนต์เสน่ห์แห่งรสชาติที่ไม่เหมือนกัน ส่วนผสมที่ไม่เหมือนกันทำให้ความอร่อยของกาแฟแต่ละแก้วไม่เหมือนกัน

เมื่อพูดถึงชื่อกาแฟหลายๆคนคงงงมาก เพราะไม่รู้ว่ามีกี่ชื่อกันแน่ มันแล้วแต่พื้นที่แล้วแต่ความชอบของแต่ละพื้นที่ แต่วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับกาแฟ อเมริกาโน่และมัคคิอาโต ว่าทั้งสองแบบคืออะไรและมีข้อแตกต่างกันอย่างไรบ้าง เริ่มต้นจากอเมริกาโน่ ซึ่งชื่อมันก็บ่งบอกอยู่แล้วว่าต้องเกี่ยวข้องอะไรซักอย่างกับประเทศหรือคนอเมิกาอย่างแน่นอนและก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ เพราะกาแฟอเมริกาโน่ นั้นเป็นกาแฟที่เกิดขึ้นจากทหารสหรัฐฯไปประจำการที่ประเทศอิตาลี แต่คนสหรัฐนั้นจะกินกาแฟตลอดทั้งวัน แน่นอนว่าในสนามรบนั้น การชงกาแฟแบบง่ายๆ รวดเร็ว แต่ให้ได้ปริมาณเยอะ นั่นก็คือการชงกาแฟกับน้ำร้อน โดยใช้น้ำร้อนในปริมาณมาก ทำให้กาแฟเจือจางลง เพื่อให้สามารถแบ่งกันกินได้หลายคน สูตรกาแฟที่เกิดขึ้นนี้จึงถูกเรียกว่า อเมริกาโน่นั่นเอง

แล้วสูตร กาแฟมัคคิอาโตละ สำหรับสูตรกาแฟชนิดนี้เป็นการแฟที่มีรสชาติอยู่ตรงกลางระหว่างเอสเปรสโซ่และคาปูชิโน่ มีสูตรกาแฟเพิ่มขึ้นมาอีก 2 ชื่อ ฉะนั้นก่อนที่เราจะรู้จักกับ มัคคิอาโตเราต้องทำความรู้จักสูตรกาแฟทั้ง 2 ที่เพิ่มขึ้นมาก่อน ซึ่งเอสเปรสโซ่นั้นก็คือกาแฟเริ่มต้นของทุกกาแฟ หรือกาแฟแบบเข้มข้นนั้นจะเป็นกาแฟผสมน้ำเพียวๆ รสชาติจะเข้มมาก จึงใช้เป็นสารตั้งต้นในการนำไปผสมกับอย่างอื่นเพื่อลดความเข้มข้นของกาแฟลง เพิ่มความอร่อยให้กับกาแฟมากขึ้น จึงทำให้สูตรกาแฟนั้นเปลี่ยนไปในทันที และ คาปูชิโน่ก็คือ กาแฟเอสเปรสโซ่ผสมกับฟองนม แต่จะให้เอสเปรสโซ่และฟองนมนั้นแยกส่วนกันอยู่ไม่ได้ผสมเข้าเป็นเนื้อเดียวกัน และมีช็อคโกแลตทับชั้นบนสุดอีกที คาปูชิโน่จึงเป็นกาแฟที่มีรสชาติค่อนข้างเข้ม ทีนี้เรามาพูดถึง มัคคิอาโตของเรา เพราะตามที่ได้กล่าวไปแล้ว ว่ากาแฟสูตรนี้จะอยู่ตรงกลางระหว่างเอสเปรสโซ่และคาปูชิโน่ ก็คือ การเอาเอสเปรสโซ่ราดด้วยฟองนม ซึ่งจะให้รสชาติที่อ่อนกว่าเอสเปรสโซ่หน่อยหนึ่ง แต่จะเข้มกว่าคาปูชิโน่นั่นเอง

นี่ขนาดเราเล่าเกี่ยวกับสูตรกาแฟแค่เพียง 2 สูตรเท่านั้น มันยังมีความเกี่ยวข้องมากมาย ฉะนั้นกาแฟจึงถือว่าเป็นศิลปะอีกอย่างหนึ่งที่ทุกคนล้วนแต่สามารถแต่งเติมรสชาติให้ออกมาไม่เหมือนกันได้ ขึ้นอยู่กับว่าสูตรของใครจะเป็นที่นิยมกว่ากันเท่านั้น